ย้อน 5 คำร้อง! จี้สอบดิจิทัลวอลเล็ตขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

จากกระแสข่าวที่ว่าสุดท้ายแล้ว พ.ร.บ.กู้เงิน5แสนล้านบาท อาจจะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ และอาจมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยจ้องจะร้องเหมือนเป็นการสกัดไม่ให้ทำสำเร็จนั้น

ล่าสุดนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่บอกว่า พรรคก้าวไกลไม่มีความคิดจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพราะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลให้เป็นไปตามวินัยการเงินการคลังจะสามารถพิจารณาได้ว่าควรทำหรือไม่ควรทำ

“เศรษฐา”ย้ำดิจิทัลวอลเล็ตไปต่อได้ ไทม์ไลน์เดิมเริ่มใช้ พ.ค.

พ.ค.67 เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต จุลพันธ์ เผยกฤษฎีกาไฟเขียว

“สมชัย” เชื่อดิจิทัลวอลเล็ตไม่ทันปี 2567 ชี้กฤษฎีกาส่งสัญญาณชัด!

พร้อมเผยว่า น่าเสียดายที่สำนักงานกฤษฎีกาไม่ได้ตีความตรง ๆ ว่าทำได้หรือไม่ได้ แต่กลับบอกแค่ว่า ถ้าถูกกฎหมายก็ทำได้ ถ้าไม่ถูกกฎหมายก็ทำไม่ได้ ตนมองว่าเสียโอกาสที่รอคอยมา 1 เดือน แต่คำตอบกลับไม่ชี้ชัดฟันธง ส่วนกรณีที่รัฐบาลอ้างว่าประเทศกำลังอยู่ในวิกฤตแต่กลับออกเป็น พ.ร.บ.แทนที่จะออกเป็นพระราชกำหนดหรือ พ.ร.ก. นั้น ในทางกฎหมายสามารถทำได้ทั้งทางพ.ร.บ.และ พ.ร.ก. แต่เมื่อเป็นปัญหาที่เป็นวิกฤต ควรต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน แต่รัฐบาลกลับเลือกทางที่ไม่ได้เร่งด่วนขนาดนั้น ถ้าเป็นวิกฤตเร่งด่วนจริงอาจจะไม่ทันการณ์ ตนมองว่ามีความย้อนแย้งกันอยู่

ทั้งนี้ก็ต้องเริ่มตั้งแต่การนิยามว่าเป็นวิกฤตหรือไม่ เพราะนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เปิดตัวตั้งแต่เดือน เม.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 66 และก็ยังรอกันมา 1 ปี จึงไม่รู้ว่าวิกฤตนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนไหนกันแน่

นางสาวศิริกัญญา เผยว่า ในการประชุม กมธ.งบฯ ครั้งนี้จะมีหน่วยงานหลักทั้ง 4 หน่วยคือ สำนักงบฯ สภาพัฒน์ กระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ก็จะได้ทราบว่าวิกฤตเศรษฐกิจหน้าตาเป็นอย่างไร สามารถพิสูจน์ตามที่กฤษฎีกาพูดได้อย่างไร หน่วยงานเหล่านี้ต้องชี้แจง แต่หากหน่วยงานนิยามไม่ตรงกันโอกาสการออกร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านจะริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม แม้พรรคก้าวไกลไม่คิดจะยื่นตีความคำตอบกฤษฎีกา เรื่องการกู้เงิน 5 แสนล้าน เพื่อมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต แต่ก็มีคนอื่นไปยื่นตีความในประเด็นนี้แล้วหลายคน ซึ่งหากย้อนไปดู ก่อนหน้านี้มีการร้องไปแล้วกว่า 5 คำร้อง ที่ขอให้ตีความนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตว่าขัดรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐหรือไม่ โดย 5 คำร้องยื่นผ่าน ผู้ตรวจการแผ่นดิน

เริ่มจาก 28 เมษายน 2566 นายสนธิญา สวัสดี นักร้องเจ้าเก่าเจ้าเดิม ยื่นร้องเป็นคนแรก ต่อด้วย 9 ตุลาคม 2566 นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ตามมาด้วย 18 ตุลาคม 2566 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และคณะ จากนั้น 25 ตุลาคม มีคนมาร้องเรียนเช่นกัน แต่ขอไม่ระบุชื่อ และสุดท้าย 13 พฤศจิกายน นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน

เช็กลิสต์ 18 ศูนย์สอบ ก.พ. แบบ e-Exam ประจำปี 2567

ซูเปอร์คอม ทำนายแชมป์เอเชียน คัพ 2023

เปิดภาพเรนเดอร์-สเปกหลุด iPhone SE 4 มาพร้อมไซส์กะทัดรัด-กล้อง 12MP

 ย้อน 5 คำร้อง! จี้สอบดิจิทัลวอลเล็ตขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

สมมงเอฟซีตัวยง “โจ๊ก โซคูล” แต่งเพลง “จริงๆ ใจฟู” ให้ “คัลแลน-พี่จอง” เขินเลยแต่งให้ผ…

จริงๆ ดีมาก! “คัลแลน-พี่จอง” ร้อนแรง เอ็นเกจเมนต์ทะลุ 20 ล้านครั้ง พร้อมเผย 5 เหตุผลตกด้อมใจฟู

เป็นอีกหนึ่งคนที่ตกหลุมรัก 2 ยูทูบเบอร์เกาหลีที่กำลังได้รับความสนใจ “คัลแลน” กับ “พี่จอง” สำหรับนักร้องชื่อดัง “โจ๊ก โซคูล” หรือ “บร๊ะเจ้าโจ๊ก” ที่นอกจากจะเข้าไปคอมเมนต์ในอินสตาแกรมของทั้ง 2 หนุ่มแล้ว

ล่าสุดยังไปสุดมาก ถึงขั้นแต่งเพลง “จริงๆ ใจฟู” ให้ ซึ่งเป็นคำพูดติดปากของทั้งสองหนุ่ม จนกลายมาเป็นคำฮิตที่แฟนๆ มาใช้กันในโซเชียด้วย โดยนักร้องหนุ่มได้โพสต์คลิปเพลงที่แต่งลงอินสตาแกรมส่วนตัว

ฮอตเกิ๊น! “คัลแลน-พี่จอง” ยอดติดตามไอจีทะลุ 1 ล้าน พลังใจฟูฟีเวอร์

พร้อมเขียนแคปชันว่า “เพลง #จริงๆใจฟู แต่งให้ @cullen_hateberry @jung_kt_ และ FC ใจฟูทุกคน เพื่อนๆสามารถนำไปโคฟเวอร์และรี อเร้นได้ โดยไม่มีลิขสิทธิ์ครับ

และยังบอกในคลิปด้วยว่า เขินอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นการแต่งเพลงให้ผู้ชายครั้งแรก งานนี้ทำเอาแฟนคลับของทั้ง “โจ๊ก” เอง และแฟนคลับของ “คัลแลน-พี่จอง” เข้ามาคอมเมนต์อย่างน่ารักเลยทีเดียวคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 สมมงเอฟซีตัวยง “โจ๊ก โซคูล” แต่งเพลง “จริงๆ ใจฟู” ให้ “คัลแลน-พี่จอง” เขินเลยแต่งให้ผ...

ดูโพสต์นี้บน Instagram

โพสต์ที่แชร์โดย MR.GORNPOP JANJAROEN (@brajaojoke)

กางคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ "พิธา" ไม่สิ้นสุด สส.คดีหุ้น ITV

ปฏิทินวันพระ 2567 เช็กวันสำคัญทางศาสนา-วันมาฆบูชา ตรงกับวันที่เท่าไร

ผลบอลเอเชียน คัพ 2023 อินเดีย-ฮ่องกง ไม่ช่วย ไทยยังไม่เข้ารอบ 100 %

ออสเตรเลียทุ่มงบ 1.5 พันล้านบาท ให้อาเซียนเสริมความมั่นคงในทะเลจีนใต้

วันที่ 4 ก.พ. เป็นวันแรกของการประชุมสุดยอดพิเศษระหว่างออสเตรเลียกับสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่เมืองเมลเบิร์น

ในวันแรกนี้ มีเวทีพูดคุยความร่วมมือทางทะเล ซึ่ง เพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลีย ได้ประกาศจัดสรรเงินทุน 64 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (เกือบ 1.5 พันล้านบาท) ให้กับประเทศในอาเซียน เพื่อความมั่นคงทางทะเลในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับบบางชาติของอาเซียนมาโดยตลอด

เรือรบอิตาลีถูกบีบให้ยิงขีปนาวุธฮูตีตก กลุ่มติดอาวุธลั่นพร้อมเอาคืน

จลาจลกลางเมืองหลวงเฮติ นักโทษหนีออกจากคุกกว่า 4,000 คน

การเจรจาหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาสส่อล่ม เหตุฮามาสไม่ส่งรายชื่อตัวประกัน

“ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคของเราพึ่งพามหาสมุทร ทะเล และแม่น้ำ เพื่อการดำรงชีวิตและการพาณิชย์ รวมถึงเส้นทางเดินทะเลที่เสรีและเปิดในทะเลจีนใต้” หว่องกล่าว

หว่องไม่ได้ระบุว่า เงินทุนดังกล่าวจะถูกจัดสรรไปให้ประเทศใดบ้าง แต่ได้รับการตอบรับจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ในการ “กำหนดเขตแดนทางทะเล”

ที่ผ่านมา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม อ้างสิทธิเหนือพื้นที่บางส่วนของทะเลจีนใต้ ขณะที่จีนอ้างสิทธิเกือบทั้งหมดเหนือน่านน้ำดังกล่าว

“สิ่งที่เกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ ในช่องแคบไต้หวัน ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ทั่วอินโดแปซิฟิก ส่งผลกระทบต่อเราทุกคน” หว่องกล่าว โดยบ่งบอกเป็นนัยถึงภัยคุกคามจากจีนแผ่นดินใหญ่ต่อชาติอาเซียน

การประชุมสุดยอดพิเศษครั้งนี้ตรงกับโอกาสครบรอบ 50 ปีที่ออสเตรเลียมีสถานะเป็น “คู่เจรจา” ของอาเซียน ประกอกับพรรคแรงงานที่เป็นพรรครัฐบาลในปัจจุบัน มีเป้าหมายมานานแล้วที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น

แต่ความสัมพันธ์ของออสเตรเลียกับประเทศในอาเซียนและผลประโยชน์ในทะเลจีนใต้ก็ถูกมองผ่านเลนส์ของความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างออสเตรเลียกับสหรัฐฯ และการเป็นสมาชิกในสนธิสัญญาความมั่นคงของออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ที่รู้จักกันในชื่อ AUKUS

ในสุนทรพจน์ของหว่อง เธออ้างถึงอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ว่า “เรายังมีความรับผิดชอบในการลดความตึงเครียด ละลายน้ำแข็ง เพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการเจรจา เชื่อมความแตกต่าง”

อินโดนีเซีย พร้อมด้วยมาเลเซีย เป็นหนึ่งในพันธมิตรของออสเตรเลีย ที่ได้หยิบยกข้อกังวลว่า การลงทุนหลายหมื่นล้านดอลลาร์ของออสเตรเลียในเรือดำน้ำนิวเคลียร์ อาจมีส่วนทำให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียแปซิฟิกในวงกว้าง

ความเคลื่อนไหวของออสเตรเลียเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างฟิลิปปินส์และจีนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จะยืนหยัดแน่วแน่ต่อจุดยืนของประเทศในทะเลจีนใต้ “ผมจะไม่ยอมให้มหาอำนาจต่างชาติพยายามเข้ายึดดินแดนอธิปไตยของเราแม้แต่ตารางนิ้วเดียว”

ฟิลิปปินส์รายงานเหตุขัดแย้งหลายครั้งกับจีนในทะเลจีนใต้ โดยกล่าวหาว่าหน่วยยามชายฝั่งของจีนใช้อุบายที่เป็นอันตราย เช่น การยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่กองเรือในทะเลจีนใต้ หรือบังคับเรือเคลื่อนที่ในลักษณะที่เป็นอันตราย

“ความท้าทายที่เราเผชิญอาจน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวพอ ๆ กันคือความมุ่งมั่นของเรา เราจะไม่ยอมแพ้” เขากล่าว

 ออสเตรเลียทุ่มงบ 1.5 พันล้านบาท ให้อาเซียนเสริมความมั่นคงในทะเลจีนใต้

เรียบเรียงจาก Al Jazeeraคำพูดจาก เว็บสล็อต มาแรงอันดับ 1

ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนซิตี้ แซงชนะ แมนยู 3-1 โฟเด้น เบิ้ล

“โยเกิร์ต” มูฟออน! ลบเกลี้ยงทุกอย่างเกี่ยว “พีเค” ด้านนางแบบเวียดนามเคลื่อนไหว หลังถูกเอี่ยวดราม่า

กยศ.คืนเงินลูกหนี้ 3,494 ราย 97 ล้านบาท หลังใช้เกณฑ์คำนวณหนี้ใหม่

ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค. ยังหดตัว 6.2% ตลาดหลักหดตัวทั้งหมด

นายกีรติรัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ-การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนกรกฎาคม 2566 และ 7 เดือนแรกของปี 2566 ระบุว่าการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2566 มีมูลค่า 22,143.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (764,444 ล้านบาท) หดตัว 6.2% ขณะที่ การส่งออกไทย 7 เดือนแรกของปี 2566 หดตัว 5.5%

แจกเงินดิจิทัล 10,000 นโยบายเรือธง พรรคเพื่อไทยแต่ทำได้ยาก

ส.สายการบินประเทศไทย เตรียมพบ นายกฯเศรษฐา หารือ ช่วยเหลือธุรกิจการบิน

มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนกรกฎาคม 2566 การส่งออก มีมูลค่า 764,444 ล้านบาท หดตัว 7.7% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 842,843 ล้านบาท หดตัว12.5%ดุลการค้าขาดดุล 78,399 ล้านบาท

ภาพรวม 7 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออก มีมูลค่า 5,554,796 ล้านบาท หดตัว 3.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 5,910,357 ล้านบาท หดตัว3.1%ดุลการค้า 7 เดือนแรกของปี 2566 ขาดดุล 355,561 ล้านบาท

สินค้าเกษตร-สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร-สินค้าอุตสาหกรรมหดตัว

มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร หดตัว 9.6% หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน โดยสินค้าเกษตร สำคัญที่หดตัว เช่น

  • ยางพารา หดตัว 37.8%หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน
  • อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปหดตัวต่อเนื่อง 7 เดือน
  • น้ำตาลทราย หดตัวในรอบ 3 เดือน
  • ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังหดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน
  • ไก่แปรรูป หดตัวต่อเนื่อง 8 เดือน
  • ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน

ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม มีสินค้าสำคัญที่หดตัว เช่น สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน หดตัวต่อเนื่อง 12 เดือน เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ หดตัวต่อเนื่อง 10 เดือน ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม หดตัวต่อเนื่อง 10 เดือน

ภาพรวมส่งออกตลาดสำคัญยังมีความไม่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม จะเห็นว่า ตลาดส่งออกที่เป็นตลาดสำคัญของไทยหดตัวเกือบทั้งหมด โดยภาพรวมการส่งออกไปยังตลาดสำคัญยังมีความไม่แน่นอน โดยยังคงได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลก

แต่แม้ว่าการส่งออกไปตลาดหลัก เช่น จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และยุโรปจะหดตัว แต่การส่งออกไปตลาดรองส่วนใหญ่ขยายตัวได้ดี เช่น ทวีปออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา รัสเซียและกลุ่ม CIS สหราชอาณาจักร ขณะที่ตลาดเอเชียใต้ ยังคงหดตัวต่อเนื่อง

แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไปคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าการส่งออกจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว การผลิตและการบริโภคชะลอลง ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้า และความผันผวนของค่าเงิน

แต่คาดว่าฐานที่ต่ำในช่วงปลายปี ภาคบริการของประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัว และอานิสงส์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีน ทำให้คู่ค้าหันมานำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางตัวจากไทยทดแทนตลาดจีนมากขึ้น

ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าในหมวดอาหารที่เป็นสินค้าจำเป็น มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยหลายประเทศเพิ่มการนำเข้าเพื่อรักษาความมั่นคงทางด้านอาหาร และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในเส้นทางใหม่ผ่าน รถไฟไทย-ลาว-จีน จะช่วยเพิ่มโอกาสการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ได้อีกทางหนึ่งด้วย

ตัวเลขเราอยู่ที่22,143.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ก็ไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ ยังพอไปได้ และคงจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ เข้ามา แนวโน้มต่อจากนี้ไปถึงสิ้นปีเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นรวมถึงเรามีรัฐบาลใหม่เข้ามาด้วย

 ตัวเลขส่งออกเดือน ก.ค. ยังหดตัว 6.2%  ตลาดหลักหดตัวทั้งหมด

เลียนแบบดวงตา “ผีเสื้อ” พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจจับ “เซลล์มะเร็ง” แม่นยำ 99%

สิ่งมีชีวิตมากมายบนโลกมีประสาทสัมผัสเหนือกว่ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเต่าที่สามารถสัมผัสสนามแม่เหล็กโลกได้ กุ้งตั๊กแตนที่สามารถตรวจจับแสงโพลาไรซ์ได้ ช้างสามารถได้ยินเสียงความถี่ที่ต่ำกว่ามนุษย์มาก แม้แต่ “ผีเสื้อ” ก็สามารถรับรู้สีได้หลากหลาย รวมถึงแสงอัลตราไวโอเลต (UV)

ด้วยความสามารถในการรับรู้สีที่หลากหลายของผีเสื้อ ทำให้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งปิ๊งไอเดียพัฒนาเซ็นเซอร์ชนิดพิเศษ เลียนแบบความสามารถของผีเสื้อในการมองเห็นช่วงรังสียูวีที่ตามนุษย์มองไม่เห็น และนำมาใช้ในการตรวจจับเซลล์มะเร็ง

ร้านสะดวกซื้อโคตรไม่สะดวกซื้อ ตั้งอยู่ “กลางหน้าผา” สูงเท่าตึก 40 ชั้น

“ธีอา” มีอยู่จริง? ดาวเคราะห์ที่พุ่งชนโลกจนเกิด “ดวงจันทร์”

ฆาตกรตัวจริงที่ทำไดโนเสาร์สูญพันธุ์ คือ “ฝุ่น” หลังอุกกาบาตชนโลก

ทีมนักวิจัยได้รับแรงบันดาลใจจากระบบการมองเห็นของผีเสื้อหางติ่งเอเชีย (Papilio xuthus) และออกแบบเซ็นเซอร์โดยใช้ โฟโตไดโอดแบบเรียงซ้อน (Stacked Photodiode) และนาโนคริสตัลเพอร์รอฟสไกต์ (PNC) ที่สามารถถ่ายภาพความยาวคลื่นต่าง ๆ ในช่วงรังสียูวีได้

ทั้งนี้ ต้องทราบก่อนว่า ในร่างกายของคนเราจะมีสิ่งที่เรียกว่า ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (Biomarker) อยู่ จะเป็นสารเคมีหรือสารพันธุกรรม ที่บ่งบอกถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา เช่น กรดอะมิโน ซึ่งสารหรือตัวบ่งชี้แต่ละตัวนี้ จะมีคลื่นสีที่ต่างกันออกไปเมื่อมองในช่วงรังสียูวี

ดังนั้น ด้วยเซ็นเซอร์ใหม่ที่เลียนแบบดวงตาของผีเสื้อ ทำให้นักวิจัยสามารถมองเห็นสี และแยกความแตกต่างระหว่างเซลล์มะเร็งกับเซลล์ปกติได้ด้วยความแม่นยำถึง 99%

งานวิจัยชิ้นใหม่นี้นำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์เออร์บานา-แชมเปญจน์ คือ วิกเตอร์ กรูเอฟ ศาสตราจารย์วิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ และ เนี่ย ชูหมิง ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมชีวภาพ

กรูเอฟบอกว่า “เราได้แรงบันดาลใจจากระบบการมองเห็นของผีเสื้อ ซึ่งสามารถรับรู้สิ่งต่าง ๆ ในสเปกตรัมรังสียูวี และออกแบบกล้องที่จำลองการทำงานนั้น … เราทำสิ่งนี้โดยใช้นาโนคริสตัลเพอร์รอฟสไกต์แบบใหม่ รวมกับเทคโนโลยีการถ่ายภาพซิลิคอน”คำพูดจาก เว็บสล็อต777

 เลียนแบบดวงตา “ผีเสื้อ” พัฒนาเซ็นเซอร์ตรวจจับ “เซลล์มะเร็ง” แม่นยำ 99%

แสงยูวีคือรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงที่ตามองเห็น (แต่ยาวกว่ารังสีเอ็กซ์) เราคุ้นเคยกับรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ แสงยูวีแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ UVA, UVB และ UVC ตามช่วงความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน

เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นแสงยูวีได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะรวบรวมข้อมูลยูวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแยกแยะความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างแต่ละประเภท

อย่างไรก็ตาม ผีเสื้อสามารถเห็นความแปรผันเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสเปกตรัมรังสียูวีได้ กรูเอฟตั้งข้อสังเกตว่า “ผมสนใจมากว่า ทำไมพวกมันถึงมองเห็นความแปรผันเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านั้น แสงยูวีตรวจจับได้ยากอย่างไม่น่าเชื่อ มันถูกดูดซับไว้โดยทุกสิ่ง และผีเสื้อก็สามารถตรวจจับมันได้ดีมาก”

ผีเสื้อมีดวงตารวม (Compound Eye) โดยมีเซลล์รับแสง 6 รูปแบบหรือมากกว่านั้น ซึ่งมีความไวต่อสเปกตรัมที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผีเสื้อหางติ่งเอเชีย ที่ไม่เพียงมีตัวรับแสงสีน้ำเงิน เขียว และแดงเท่านั้น แต่ยังมีตัวรับแสงสีม่วง อัลตราไวโอเลต และบรอดแบนด์อีกด้วย

นอกจากนี้ ผีเสื้อยังมีเม็ดสีเรืองแสงที่ช่วยให้พวกมันแปลงแสงยูวีเป็นแสงที่มองเห็นได้ ซึ่งจากนั้นเซลล์รับแสงของพวกมันก็สามารถรับรู้ได้ง่าย ช่วยให้พวกเขารับรู้สีและรายละเอียดในสภาพแวดล้อมได้กว้างขึ้น

นอกเหนือจากจำนวนเซลล์รับแสงที่เพิ่มขึ้นแล้ว ผีเสื้อยังมีโครงสร้างที่เป็นชั้น ๆ ในตัวรับแสงด้วย เพื่อจำลองกลไกการตรวจจับรังสียูวีของผีเสื้อหางติ่งเอเชีย ทีม ทีมวิจัยได้จำลองกระบวนการนั้น โดยการรวม PNC ชั้นบาง ๆ เข้ากับโฟโตไดโอดซิลิคอนที่เรียงเป็นชั้น ๆ

PNC เป็นนาโนคริสตัลเซมิคอนดักเตอร์ที่แสดงคุณสมบัติเฉพาะคล้ายกับจุดควอนตัม การเปลี่ยนแปลงขนาดและองค์ประกอบของอนุภาคจะเปลี่ยนคุณสมบัติการดูดซับและการปล่อยก๊าซของวัสดุ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา PNC ได้กลายเป็นวัสดุที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานการตรวจจับต่าง ๆ เช่น เซลล์แสงอาทิตย์และ LED รวมถึง PNC สามารถตรวจจับความยาวคลื่นยูวีได้ดีมาก ซึ่งเครื่องตรวจจับซิลิคอนแบบเดิมไม่สามารถทำได้

ในเซ็นเซอร์ใหม่ ชั้น PNC สามารถดูดซับโฟตอนยูวีและปล่อยแสงอีกครั้งในสเปกตรัมที่มองเห็นได้ ซึ่งจะถูกตรวจพบโดยโฟโตไดโอดซิลิคอนแบบซ้อน การประมวลผลสัญญาณเหล่านี้ช่วยให้สามารถจัดทำแผนที่และระบุลายเซ็นยูวีได้

มีตัวบ่งชี้ทางชีวภาพหลายอย่างในเนื้อเยื่อมะเร็งที่ความเข้มข้นสูงกว่าเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ได้แก่ กรดอะมิโน โปรตีน และเอนไซม์ เมื่อเจอกับแสงยูวี ตัวบ่งชี้เหล่านี้จะสว่างขึ้นและเรืองแสงและเป็นส่วนหนึ่งของสเปกตรัมที่มองเห็นได้ ในกระบวนการที่เรียกว่าออโตฟลูออเรสเซนซ์

เนี่ย ชูหมิง บอกว่า “การถ่ายภาพในบริเวณที่มีรังสียูวีนั้นมีจำกัด และผมจะบอกว่านั่นเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดในการสร้างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ตอนนี้เราได้เทคโนโลยีนี้มาซึ่งเราสามารถถ่ายภาพแสงยูวีที่มีความไวสูงและยังสามารถแยกแยะความแตกต่างของความยาวคลื่นเล็กน้อยได้”

เนื่องจากเซลล์มะเร็งและเซลล์ที่มีสุขภาพดีมีความเข้มข้นของตัวบ่งชี้ต่างกัน ดังนั้นลายเซ็นสเปกตรัมจึงแตกต่างกัน เซลล์ทั้งสองประเภทจึงสามารถแยกความแตกต่างจากการเรืองแสงที่ต่างกันในสเปกตรัมยูวี

ทีมวิจัยพบว่า เซ็นเซอร์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากผีเสื้อนี้ สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างเซลล์มะเร็งและเซลล์ที่มีสุขภาพดีได้ด้วยความแม่นยำถึง 99%

“เทคโนโลยีการถ่ายภาพใหม่นี้ช่วยให้เราสามารถแยกแยะเซลล์มะเร็งกับเซลล์ที่มีสุขภาพดีได้ และกำลังเปิดประตูการใช้งานใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นนอกเหนือจากด้านสุขภาพ” เนี่ย ชูหมิง กล่าว

เรียบเรียงจาก Phys.org

ภาพจาก Shutterstock

"เศรษฐา" สั่ง "ปานปรีย์" ศึกษาความเหมาะสม ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ

เรอัล มาดริด แถลงการณ์โต้ข่าวลือดีล "เอ็มบัปเป้"

“ต้องเต” หวังรัฐจริงจังผลักดันภาพยนตร์ไทย รองเลขาฯ นายกแจง ไม่คิดเคลมความสำเร็จ “สัปเหร่อ”

แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ ประณามเหตุโจมตีอิสราเอล

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า สถานการณ์อิสราเอลที่มีรายงานว่าถูกจรวดจากเขตฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ ยิงถล่มและมีผู้บาดเจ็บ กระทั่งมีการประกาศภาวะสงครามในอิสราเอลแล้วนั้น

ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล โดยมีเนื้อหา ดังนี้

ตามที่เกิดเหตุการณ์การส่งอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับและจรวดจากฉนวนกาซาเข้าโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566

 แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศ ประณามเหตุโจมตีอิสราเอล

"อิสราเอล" ประกาศ! เตรียมพร้อมทำสงคราม กองทัพเรียกระดมพลสำรอง

"เศรษฐา" ห่วงคนไทยอาศัยในอิสราเอล สั่งสถานทูตดูแลคนไทยด่วน คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์และความเสียหายต่อทรัพย์สิน

ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้

รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้

รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว

อ่านรายละเอียด :แถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล

ด้าน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ทวีตข้อความ ประณามการโจมตีอิสราเอล โดยระบุว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมที่ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บในครั้งนี้ และขอให้คนไทยในอิสราเอลทุกคนปลอดภัย

ผมขอประณามการโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บในครั้งนี้ และขอให้พี่น้องคนไทยในอิสราเอลทุกท่านปลอดภัยครับ

เช่นเดียวกับ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ทวีตข้อความว่า ขอให้คนไทยในอิสราเอลทุกท่านปลอดภัย และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล

การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ส่งผลให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว

เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ทวิตข้อความผ่าน Srettha Thavisinระบุว่า ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว

ผมได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ

ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยครับ

“ทรัมป์” เปิดตัวรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีทองอร่าม ตั้งราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา ในงาน Sneaker Con ที่ฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เปิดตัวรองเท้า “ทรัมป์สนีกเกอร์ส” (Trump sneakers)

อดีตประธานาธิบดีเปิดตัว “NEVER SURRENDER HIGH-TOP SNEAKER” ซึ่งแปลได้ว่า “รองเท้าไม่ยอมจำนน” เป็นรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีทองอร่าม ตกแต่งด้วยดีเทลธงชาติสหรัฐฯ ที่ด้านหลัง โดยจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ที่ราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 14,000 บาท) และมีเพียง 1,000 คู่เท่านั้น

ญี่ปุ่นเตรียมส่ง “ดาวเทียมไม้” ดวงแรกของโลกขึ้นสู่อวกาศปีนี้!

อิหร่านเปิดตัวขีปนาวุธรุ่นใหม่ที่ผลิตเองในประเทศ

รัสเซียจ่อยึด “เมืองอัฟดีฟกา” หลังยูเครนสั่งถอนทัพ คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

 “ทรัมป์” เปิดตัวรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีทองอร่าม ตั้งราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ

มีรายงานว่า ภายในคืนวันที่เปิดตัว รองเท้า NEVER SURRENDER ถูกขายเกลี้ยงเว็บไซต์

ทรัมป์กล่าวว่า “นี่คือสิ่งที่ผมอยากทำมาเป็นเวลานานแล้ว นี่คือสิ่งที่ผมพูดถึงมาเป็นเวลา 12-13 ปี และผมคิดว่ามันจะเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่”

อดีตประธานาธิบดียังขายรองเท้าผ้าใบอีกรุ่นที่มีตัวอักษร “T” และตัวเลข “45” อยู่ที่ด้านข้าง ซึ่งสื่อถึงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของเขา โดยขายในราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,100 บาท) นอกจากนี้ยังวางจำหน่ายโคโลญจน์และน้ำหอมชิ้นละ 99 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,500 บาท)

อย่างไรก็ตาม สินค้าเหล่านี้ไม่ใช่แบรนด์ของทรัมป์โดยตรง ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ระบุว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็น “เครื่องหมายการค้าของ CIC Ventures LLC โดย Trump sneakers ไม่ได้ถูกออกแบบ ผลิต หรือจำหน่ายโดย โดนัลด์ ทรัมป์, The Trump Organisation หรือบริษัทในเครือหรือตัวการใดๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั่งนี้ 45Footwear, LLC ใช้ชื่อ รูปภาพ และสัญลักษณ์ของทรัมป์ภายใต้ข้อตกลง”

การปรากฏตัวของทรัมป์ที่ Sneaker Con เกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่เขาและบริษัทของเขาถูกศาลสั่งให้ต้องจ่ายเงินเกือบ 355 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.26 หมื่นล้านบาท) ในการพิจารณาคดีฉ้อโกงทางแพ่งในนิวยอร์ก ฐานฉ้อโกงทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาสูงเกินจริง

นอกจากนี้ เขายังถูกปรับเป็นเงินอีก 83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 3 พันล้านบาท) ในข้อหาหมิ่นประมาท อี. จีน แคร์โรลล์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพรรครีพับลิกัน

เรียบเรียงจาก CNN

“กุ้ง สุธิราช” ลงภาพวันเด็กแทนน้อง “วิรดา” เผยความผูกพัน ยังรอปาฏิหาริย์ให้ฟื้น

แห่ส่งกำลังใจ “วิรดา วงศ์เทวัญ” น้องสาว “กุ้ง สุธิราช” ป่วยไข้เลือดออกอยู่ในขั้นวิกฤต

เป็นพี่น้องที่สนิทและทำงานด้วยกันตลอด สำหรับนักร้องและพระเอกลิเกดัง “กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ” กับ “วิรดา วงศ์เทวัญ” น้องสาวที่กำลังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ป่วยไข้เลือดออกชนิดรุนแรง อาการยังวิกฤต ต้องทำบอลลูนหัวใจและมีภาวะสมองบวม ยังไม่รู้สึก ครอบครัวเฝ้ารอวันฟื้นกลับมาสู่อ้อมกอด แม้ความหวังจะมีน้อยแต่ก็ขอหวังพึ่งคุณหมอที่รักษาเต็มที่และรอปาฏิหาริย์ควบคู่กันไป

โดยวันเด็กปีนี้ (2567) “กุ้ง” ได้โพสต์ภาพกับ “วิรดา” ในช่วงเด็กจนถึงโต

“กุ้ง สุธิราช – จิ้งหรีดขาว” น้ำตาคลอ! ไม่หมดหวัง “วิรดา” ยังวิกฤต ดูอาการวันต่อวัน คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง

พร้อมเขียนข้อความจากพี่ชายถึงน้องสาวไว้ว่า“เด็กน้อยสองคนพี่น้องที่โตมาด้วยกัน แทบจะตัวติดกัน ไม่เคยทะเลาะกัน แค่มองตา พูดไม่กี่คำก็เข้าใจ ผ่านเรื่องทุกข์สุข เรื่องดีเรื่องร้ายมาด้วยกัน ก็ไม่เคยทิ้งกัน อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ถึงเวลาผ่านไปนานแค่ไหน หนูก็ยังเป็นเด็กน้อยที่น่ารักที่สุดในชีวิตพี่ มันบีบหัวใจพี่มากนะ พี่รักหนูนะวิ พี่ยังคงคอยปาฏิหาริย์อยู่นะ วันเด็กปีนี้พี่ขอเป็นคนลงแทนให้นะ สุขสันต์วันเด็กครับ”

ซึ่งมีแฟนๆ เข้ามาร่วมส่งกำลังใจและภาวนาให้ “วิรดา” หายป่วยโดยเร็ววัน

 “กุ้ง สุธิราช” ลงภาพวันเด็กแทนน้อง “วิรดา” เผยความผูกพัน ยังรอปาฏิหาริย์ให้ฟื้น

“ธ.ไทยเครดิต” ยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขายไอพีโอ 347.02 ล้านหุ้น

นายวิญญู ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารฯ เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยและลูกค้าบุคคล โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลัก ประกอบด้วย สินเชื่อนาโนและไมโครเครดิตเพื่อคนค้าขาย (Nano and Micro Finance) สินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี (Micro SME) และสินเชื่อบ้าน ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อบ้านแลกเงิน และ สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน

โดยการให้บริการสินเชื่อมุ่งเน้นไปยังกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการแผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กและขนาดกลาง ตลอดจนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ

ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ขอเสนอขายหุ้น IPO ห้ามมีเอี่ยวธุรกิจสีเทา

บริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/65 กำไรแย่กว่าคาด เสี่ยงกดดันตลาดหุ้น หั่นเป้า 1,685 จุด

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 พ.คคำพูดจาก สล็อตวอเลท. 2566 ธนาคารฯ ได้ดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) โดยจำนวนหุ้นที่คาดว่าจะเสนอขายทั้งหมด (รวมหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายโดยธนาคารฯ และหุ้นสามัญที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม) ไม่เกิน 347,029,122 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.2 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมดของธนาคารฯ ภายหลังการทำ IPO รวมจำนวนหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญในกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน

สำหรับวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ โดยหลักจะนำไปใช้เป็นเงินทุนในการรองรับการขยายพอร์ตสินเชื่อ และปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการช่วยผลักดันให้ธนาคารฯ มีแหล่งเงินลงทุนเพื่อนำไปให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินแก่ผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นรากฐานของประเทศ

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ธนาคารฯ มียอดเงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้ (ไม่รวมดอกเบี้ยค้างรับและรายได้ดอกเบี้ยที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ) อยู่ที่ 121,298.0 ล้านบาท โดยเงินให้สินเชื่อหลักมาจากสินเชื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี ทั้งนี้ เงินให้สินเชื่อของธนาคารฯ เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมร้อยละ 32.7 ต่อปี ในระหว่างปี 2563 ถึงปี 2565

นอกจากนี้ ปี 2565 ธนาคารฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,352.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมร้อยละ 30.9 ต่อปี ในระหว่างปี 2563 ถึงปี 2565 และยังมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) สำหรับปีเดียวกันอยู่ที่ร้อยละ 18.9 ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost-to-Income Ratio) ลดลงโดยตลอดจากร้อยละ 49.9 ในปี 2563 เป็นร้อยละ 39.5 ในปี 2565

อย่างไรก็ตาม ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) นับเป็นธนาคารพาณิชย์ที่เสนอขายหุ้น IPO ในรอบ 10 ปี โดยมุ่งหวังว่าการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเสริมให้ฐานเงินทุนของธนาคารฯ มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพในการเติบโตของสินเชื่อแล้ว ยังเป็นการเพิ่มช่องทางการระดมทุนที่หลากหลาย ภายใต้สภาวะทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

 “ธ.ไทยเครดิต” ยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ขายไอพีโอ 347.02 ล้านหุ้น

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 35.81 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways (แกว่งตัวในช่วง 35.75-35.88 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการย่อตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากรายงานดัชนี ISM PMI ภาคการบริการสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าคาด

ราคาทองวันนี้ (6 มี.ค.67) เปิดการซื้อขายขึ้น 100 บาท ทำ New all time high ต่อเนื่อง

เงินเฟ้อ ก.พ. ติดลบ 0.77% อาหารสด ดีเซล ค่าไฟ ลดลง

อย่างไรก็ดี เงินบาทยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ เนื่องจากเงินดอลลาร์ก็สามารถรีบาวด์ขึ้นบ้าง ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ

ที่ผู้เล่นในตลาดทยอยลดความเสี่ยง ด้วยการขายหุ้นเทคฯ ใหญ่ (The Magnificent 7) ก่อนรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟดและรายงานข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นอย่างใกล้ชิด คือ ถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อสภาคองเกรส พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) รวมถึงยอดการจ้างงานภาคเอกชน โดย ADP ซึ่งอาจสะท้อนถึงแนวโน้มยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) ในวันศุกร์นี้ได้ และนอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจจากบรรดาเฟดสาขาต่างๆ (Fed Beige Book) พร้อมกับถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด ซึ่งจะช่วยในการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

แนวโน้มของค่าเงินบาท

 ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้  35.81 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลง”

เงินบาทยังมีแนวโน้มแกว่งตัวลักษณะ sideways down แต่การแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัดในโซนแนวรับ 35.70-35.80 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ข้อมูลตลาดแรงงาน รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดในคืนนี้

นอกจากนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด เพราะถึงแม้ว่าเราจะประเมินว่า ประธานเฟดจะยังคงเน้นย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าเฟดจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเข้าสู่เป้าหมาย 2% (ซึ่งก็ไม่ต่างจากที่ผู้เล่นในตลาดคาดหวัง) แต่หากถ้อยแถลงของประธานเฟด รวมถึงรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดเริ่มเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด (เลื่อนการเริ่มลดดอกเบี้ยไปจากการประชุมเดือนมิถุนายน) หรือเฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าคาด

ก็อาจทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งภาพดังกล่าวก็อาจยิ่งกดดันให้ตลาดขายหุ้นเทคฯ ใหญ่สหรัฐฯ ทำให้บรรยากาศในตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงและหนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ไม่ยาก โดยในกรณีดังกล่าวนั้น เงินบาทก็มีโอกาสผันผวนอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน 36.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้ แต่ในทางกลับกัน หากถ้อยแถลงของประธานเฟดไม่ได้สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับตลาด อีกทั้งรายงานข้อมูลการจ้างงานก็ชะลอลงมากขึ้น ก็อาจทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงต่อบ้าง ทำให้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้น ลุ้นว่าจะทะลุโซนแนวต้าน 35.70 บาทต่อดอลลาร์ ได้หรือไม่ (แนวรับสำคัญถัดไปแถวโซน 35.50 บาทต่อดอลลาร์)

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.70-36.00 บาท/ดอลลาร์

ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 35.82 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 35.85 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆโดยมีแรงหนุนในทิศทางแข็งค่าตามการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์จากการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของบิตคอยน์ (Bitcoin) และราคาทองคำที่พุ่งอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นสัปดาห์ ก็มีส่วนที่ช่วยหนุนให้เงินดอลลาร์ปรับฐานและอ่อนค่าในระยะนี้

ตลาดจับตาถ้อยแถลงนโยบายการเงินของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสใน วันพุธและพฤหัสบดีนี้ ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด – รวมถึงรอดูกระทรวงแรงงานสหรัฐที่จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.พ.ในวันศุกร์นี้ ทำให้ค่าเงินบาทน่าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตาม Flow การซื้อขายทองคำ

Fund flowเมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรสุทธิ808 ล้านบาท และขายหุ้นไทยสุทธิ 2,918 ล้านบาท

กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ USD/THB 35.75- 35.95 *แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 35.75

EUR/THB 38.70- 39.00 * แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 39.00

JPY/THB 0.2370- 0.2410 * แนะนำ ทยอยซื้อ0.2370

GBP/THB 45.30-45.70 AUD/THB 23.20- 23.60

ร้อนตับแตก! 5-6 มี.ค.นี้ ดัชนีความร้อน พุ่งสูงทะลุ 48-51 องศา

iOS 17.4 เปิดอัปเดตแล้ว มาพร้อมอิโมจิ-ฟีเจอร์ใหม่เพียบ! คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง อันดับ1

แฉลากไส้! แก๊งกะเทยฟิลิปปินส์ มี “แม่แท็ค” คุมซอยสุขุมวิท 11