รัฐบาลยืนยันขึ้นราคาน้ำตาลทรายได้แค่ 2 บาท ชี้กระทบผู้บริโภคมากพอแล้ว

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยภายหลัง ครม. มีมติให้ขึ้นราคาน้ำตาลหน้าโรงงาน 2 บาทต่อกก. ว่าเพื่อช่วยต้นทุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องที่รัฐบาลต้องตัดสินใจคือการหาเงินมาใส่ในกองทุนสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนไม่ให้เกษตรกรเผาอ้อยซึ่งจะเกิดปัญหา PM2.5 ซึ่งเดิมนั้น มีข้อเสนอจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ให้ขึ้นราคาน้ำตาลเพิ่มอีก 2 บาทต่อกก. แต่ครม. ไม่เห็นด้วยในแนวทางนี้

ทั้งนี้ตามมติ ครม. ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะที่กำกับ สอน. ไปหาแนวทางที่เหมาะสมว่าจะนำเงินจากแหล่งไหน มาใส่ในกองทุนนี้ที่ไม่กระทบผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลมองว่าการปรับราคาน้ำตาลขึ้น 2 บาทต่อกก. เป็นภาระมากต่อผู้บริโภคมากแล้ว หากจะหาเงินมาใส่กองทุนเพื่อลดการเผาอ้อย ไม่ควรผลักภาระส่วนนี้ให้ผู้บริโภคอีก จึงมีการตั้งคณะทำงานบริหารความสมดุลในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสม

โดยคณะทำงานในเรื่องนี้ มีนายยรรยง พวงราช ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยข้อเสนอที่หารือกันของที่ทำงานในขณะนี้ คือการให้โรงงานผลิตน้ำตาลเป็นผู้รับภาระในส่วนที่จะเอาเงินใส่กองทุนสิ่งแวดล้อม เนื่องจากโรงงานเป็นผู้รับผลผลิตจากเกษตรกร มาแปรรูปเป็นน้ำตาล ขณะที่ราคาขายปลีกและส่งออกปรับเพิ่มขึ้นมาก จึงจะสามารถนำมาใส่ในกองทุนได้ โดยไม่กระทบกับผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามแนวทางยังไม่ได้ข้อสรุป

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า แนวทางในการขึ้นราคาน้ำตาลยืนยันว่ารัฐบาลให้ขึ้นเพียงแค่ 2 บาทต่อกก. ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยเหลือต้นทุนของชาวไร่อ้อยเท่านั้น ส่วนแนวทางการขึ้นราคาอีก 2 บาทต่อกก. เพื่อที่จะมาใส่ในกองทุนสิ่งแวดล้อม รัฐบาลไม่เห็นด้วย และได้สั่งการให้ สอนคำพูดจาก เว็บสล็อตลิขสิ. ไปคุยในแนวทางที่เหมาะสมมาให้เรียบร้อยก่อนที่จะเสนอ ครม. อีกครั้งคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

กรณีหากให้โรงงานน้ำตาลเป็นผู้รับภาระในส่วนนี้ จะมีความเหมาะสมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ ต้องดูข้อเสนอของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย เช่นเดียวกับเรื่องของการใช้งบประมาณเข้ามาเติมในกองทุนนี้ก็ต้องดูข้อเสนอสุดท้ายที่จะเข้ามาก่อน ส่วนเรื่องของน้ำตาลขาดตลาด กระทรวงพาณิชย์ก็จะพยายามดูแลไม่ให้มีปัญหาในส่วนนี้

“น้ำตาลขึ้น 2 บาทต่อกก. ตอนนี้ก็โอเคแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2 บาทต่อกก. ที่จะมาจัดการเรื่อง PM2.5 ไม่ให้ขึ้น เราให้ไปดูว่าจะทำยังไง เพราะว่าเราไม่เห็นว่าเรื่องนี้ผู้บริโภคจะต้องรับผิดชอบ” นายภูมิธรรม กล่าว

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เรื่องของการขาดแคลนน้ำตาลในตลาดหลังจากมีการปรับขึ้นราคา คาดว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นในช่วงแรก ในอีกไม่นานน้ำตาลก็จะไม่ขาดตลาด ซึ่งได้คุยกับ สอน. ให้ดูในเรื่องของการกระจายตัวผลผลิตน้ำตาลที่จะออกสู่ท้องตลาดไม่ให้มีการกระจุกตัวจนเกินไป และมองว่าหากบริหารจัดการได้ดี น้ำตาลทรายไม่น่าจะขาดตลาด เพราะว่าประเทศไทยผลิตได้ปีละ 10 ล้านตัน โดยส่งออก 8 ล้านตัน บริโภคในประเทศเพียง 2 ล้านตัน

สำหรับเรื่องของการขออนุญาตส่งออก ขณะนี้ไม่ได้มีการควบคุมการส่งออกน้ำตาล โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) แล้ว แต่ให้กลับไปใช้กลไกเดิมก่อนที่จะประกาศให้น้ำตาลเป็นสินค้าควบคุม คือผู้ที่ส่งออกน้ำตาลตั้งแต่ 1,000 กก. ขึ้นไป ให้ขออนุญาตจาก สอน. เหมือนเดิม โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์และ สอน. มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 2 หน่วยงานอยู่แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการสามารถกลับไปใช้ช่องทางเดิมในการขออนุญาตส่งออกน้ำตาลตามปริมาณที่กำหนด